บุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ได้แก่ บุคคลที่สูญเสียการได้ยินตั้งแต่ระดับหูตึงน้อยจนถึงหูหนวก ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1) นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน หมายถึง บุคคลที่สูญเสียการได้ยินมากจนไม่สามารถเข้าใจการพูดผ่านทางการได้ยินไม่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่เครื่องช่วยฟัง ซึ่งโดยทั่วไปหากตรวจการได้ยินจะมีการสูญเสียการได้ยิน 90เดซิเบลขึ้นไป สื่อสารโดยใช้ภาษามือเป็นหลัก
2) คนหูตึง หมายถึง บุคคลที่มีการได้ยินเหลืออยู่เพียงพอที่จะได้ยินการพูดผ่านทางการได้ยิน โดยทั่วไปจะใส่เครื่องช่วยฟัง ซึ่งหากตรวจวัดการได้ยินจะมีการสูญเสียการได้ยินน้อยกว่า 90 เดซิเบล ลงมาถึง 26 เดซิเบล สามารถสื่อสารโดยใช้การพูดเหมือนคนทั่วไป
ประเทศไทยมีบุคคลที่บกพร่องทางการได้ยินขึ้นทะเบียนคนพิการ จำนวน 352,503 คน คิดเป็นร้อยละ 18.40 หรือ หนึ่งในห้าของความพิการทั้งหมด (กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ, 2561) โดยเด็กเกิดใหม่ประมาณ 2 ถึง 3 ใน 1,000 คน เป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเช่นเดียวกับข้อมูลของสถาบันแห่งชาติด้านบกพร่องทางการได้ยินและความบกพร่องทางการสื่อสาร อื่น ๆ (National Institute on Deafness and Other Communication Disorders: NIDCD, 2015) พบว่า ประมาณ 2 ถึง 3 ใน 1,000 คน ของคนที่เกิดใหม่ของประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีหูข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างสูญเสียการได้ยินและนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินมากกว่าร้อยละ 90 เกิดจากพ่อแม่ที่มีการได้ยิน
สถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน National Technical Institute for the Deaf: NTID, 2018) สังเคราะห์ผลการวิจัยด้านนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ซึ่งเป็นความก้าวหน้าของวิธีการจัดการศึกษาของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินกำลังได้รับการศึกษา การวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าควรมีล่ามที่มีคุณภาพในชั้นเรียนรวม นักการศึกษาจำเป็นต้องเข้าใจว่านักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินมีการเรียนรู้และกระบวนการนับส่งข้อมูลของสมองมีความแตกต่างกับเพื่อนนักเรียนที่มีการได้ยินในวัยเดียวกัน NTID นำเสนอว่านักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเป็นนักเรียนที่เรียนรู้จากการมองเห็น (Visual learner) และมีความจำจากมิติสัมพันธ์ทางการเห็นดีมาก (Visual-spatial memories) ครูควรมีการจัดการเรียนรู้ผ่านสื่อการสอนที่เป็นรูปภาพ ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว แผนภูมิ ไดอะแกรมหรือสื่อที่ทำให้นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินมองและเข้าถึงองค์ความรู้ที่ครูสอนได้ และพบว่านักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินมีปัญหาการจำลำดับหรือเรียงลำดับก่อนหลัง (Sequential memory) และมีปัญหาการเคลื่อนไหว การทรงตัว ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว
ดังนั้นการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มโดยผู้ปกครองมีส่วนร่วมเป็นสิ่งสำคัญมาก การจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นทั้งการปรับหลักสูตร วิธีการสอน การเพิ่มเวลา การสอนซ้ำ การสื่อสารผ่านล่ามภาษามือหรือทักษะการใช้ภาษามือของครู และวัดประเมินผลการเรียนรู้ที่เป็นรายบุคคล ทำให้นักเรียนหูหนวกมีความสุขกับการเรียนรู้
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ. (2561).ผลการจดทะเบียนคนพิการทั่วประเทศ. กรุงเทพ: กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.
National Technical Institute for the Deaf. (2018). Deaf Education: A New Philosophy. Retrieved May 13, 2018. From https://www.bbc.com/news/science environment-26925271.
|