บกพร่องทางการเห็น
|
แม้ฉันจะมองพร่ามัวแต่ฉันสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมหัศจรรย์ เพราะฉันมีแสงสว่างแห่งปัญญา
|
บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น
บุคคล ที่มีความบกพร่องทางการเห็น หมายถึง บุคคลที่สูญเสียการเห็นจนไม่สามารถรับการศึกษา ได้โดยการเห็นหรือใช้สายตาได้ตามปกติ แต่สามารถศึกษาเล่าเรียนได้โดยวิธีการต่างไปจากคนที่มองเห็นปกติแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1. คนตาบอด หมายถึง บุคคลที่สูญเสียการเห็นมากจนไม่สามารถอ่านหนังสือธรรมดาได้ ต้องสอน ให้อ่านและเขียนอักษเบรลล์ หรือใช้วิธีการฟังแถบบันทึกเสียง หรือเครืองบันทึกเสียต่าง ๆ และมีความสามารถในการเห็นของตาข้างที่ดี หลักจากได้รับการแก้ไขแล้วอยู่ระหว่าง 20 ส่วน 200 ฟุต มีลานสายตาแคบกว่า 30 องศา
2. คนตาบอดบางส่วน หรือคนที่มีการเห็นเลือนราง หมายถึง บุคคลที่มีสูญเสียการเห็นแต่ยังสามารถอ่านอักษรตัวพิมพ์ที่มีขนาดใหญ่ได้ โดยต้องใช้แว่นขยายหรืออุปกรณ์พิเศษบางอย่างที่ทำให้ความชัดเจนของการเห็นใน ข้างที่ดี เมื่อแก้ไขแล้วอยู่ในระดับ 20 ส่วน 60 ฟุต ถึง 20 ส่วน 200 ฟุต มีลานสายตาแคบกว่า 30 องศา
การสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของผู้ที่บกพร่องทางการเห็น มีการนำเทคโนโลยี สื่อ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มาใช้เพื่อให้เกิดการเข้าถึงข้อมูลและการเรียนการสอนอย่างเท่าเทียม ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
1. เทคโนโลยีช่วยเหลือ (Assistive Technology)
- เครื่องอ่านหน้าจอ (Screen Readers):
ซอฟต์แวร์ที่ช่วยแปลงข้อมูลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือเป็นเสียง เช่น JAWS, NVDA, VoiceOver ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ฟังข้อมูลแทนการมองเห็น
- ซอฟต์แวร์แปลงข้อความเป็นเสียง (Text-to-Speech Software):
ใช้แปลงเอกสารและสื่อดิจิทัลให้กลายเป็นเสียงอ่าน ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาการมองเห็นสามารถรับข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง
- อุปกรณ์แสดงผลแบบเบรลล์ (Braille Display/Printer):
เครื่องมือที่แปลงข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ให้เป็นรูปแบบบราลล์สำหรับการอ่านด้วยสัมผัส หรือเครื่องพิมพ์บราลล์สำหรับพิมพ์เอกสารที่เขียนด้วยเบรลล์
- ซอฟต์แวร์ขยายภาพ (Screen Magnification Software):
ช่วยขยายตัวอักษรและภาพบนหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ผู้ที่มีสายตาอ่อนสามารถมองเห็นได้ง่ายขึ้น
- แอปพลิเคชันบนมือถือ:
แอปที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล เช่น แอปแปลงภาพเป็นเสียง แอปนำทางสำหรับผู้ที่บกพร่องทางการเห็น
2. สื่อการเรียนรู้ที่เข้าถึงได้ (Accessible Media)
- สื่อแบบเบรลล์ (Braille Materials):
หนังสือ เอกสาร หรือสื่อการเรียนรู้ที่พิมพ์ด้วยตัวอักษรบราลล์ ช่วยให้ผู้ที่บกพร่องทางการเห็นสามารถอ่านข้อมูลด้วยการสัมผัส
- สื่อเสียง (Audio Materials):
หนังสือเสียง วิดีโอที่มีเสียงบรรยาย หรือสื่อการสอนในรูปแบบพอดแคสต์ ช่วยให้ผู้เรียนฟังและรับข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สื่อดิจิทัลที่ออกแบบให้เข้าถึงได้ (Accessible Digital Content):
เว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ถูกออกแบบตามหลักการเข้าถึง (Accessibility Guidelines) มีตัวเลือกปรับขนาดตัวอักษร สีและคอนทราสต์ที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ
- สื่อผสม (Multimedia):
วิดีโอที่มีคำบรรยาย (Closed Caption) หรือเสียงพากย์ที่ชัดเจน ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น
3. สิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพ (Physical Facilities)
- ห้องเรียนและอาคารที่เข้าถึงได้ (Accessible Classrooms/Buildings):
การออกแบบสิ่งปลูกสร้างที่คำนึงถึงความต้องการของผู้บกพร่องทางการเห็น เช่น มีป้ายสัญลักษณ์ที่เป็นเบรลล์, ระบบแสงสว่างที่เหมาะสม, ทางเดินที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง และทางลาดสำหรับการเคลื่อนที่อย่างอิสระ
- อุปกรณ์การสื่อสารภายในสถานศึกษา:
ระบบเสียงประกาศที่ชัดเจนและครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงการติดตั้งอินเตอร์คอม (Intercom) เพื่อให้ผู้เรียนสามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน
- พื้นที่ฝึกอบรมและศูนย์บริการ:
ศูนย์บริการและห้องฝึกอบรมที่จัดให้มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีช่วยเหลือครบครัน เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และการฝึกทักษะการใช้เทคโนโลยีของผู้ที่บกพร่องทางการเห็น
- ห้องสมุดและแหล่งข้อมูลที่เข้าถึงได้:
ห้องสมุดที่มีสื่อในรูปแบบอักษรเบรลล์และสื่อเสียง รวมถึงการจัดระบบค้นหาข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางการเห็น
การผสานเทคโนโลยี สื่อการเรียนรู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพที่เข้าถึงได้เป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนผู้ที่บกพร่องทางการเห็น ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเรียนรู้หรือการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งช่วยให้พวกเขามีความเป็นอิสระและมีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ในทุกด้านของชีวิต.
การจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่บกพร่องทางการเห็น เป็นการให้โอกาสที่เท่าเทียมกับนักเรียนทั่วไป แนวทางสำคัญ ได้แก่
1. การปรับหลักสูตรและสื่อการสอน
- ใช้ อักษรเบรลล์ สำหรับการอ่านและเขียน
- ใช้ สื่อเสียง (Audio materials) เช่น หนังสือเสียง โปรแกรมอ่านหน้าจอ
- ใช้ เทคโนโลยีช่วยเหลือ (Assistive Technology) เช่น ซอฟต์แวร์อ่านหน้าจอ (Screen Reader) หรืออุปกรณ์ขยายตัวอักษร
- จัดทำ สื่อการสอนที่เข้าถึงได้ เช่น เอกสารที่มีตัวอักษรขนาดใหญ่ หรือมีการใช้ QR Code สำหรับเข้าถึงไฟล์เสียง
2. การจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพ
- ห้องเรียนควรมีการออกแบบที่ เป็นมิตรต่อผู้พิการทางสายตา เช่น มีทางเดินที่ปลอดภัย ไม่มีสิ่งกีดขวาง
- ใช้ เครื่องหมายสัมผัส (Tactile Markers) หรือแถบพื้นผิวต่างระดับเพื่อช่วยนำทาง
- ใช้แสงที่เพียงพอและหลีกเลี่ยงแสงสะท้อนที่อาจรบกวนสายตาของนักเรียนที่มีสายตาเลือนราง
3. การพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ
- ฝึกการใช้ อักษรเบรลล์ และเครื่องมือช่วยเหลืออื่น ๆ
- ส่งเสริมทักษะในการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น
- จัดกิจกรรมที่พัฒนาความสามารถทางอาชีพ เช่น ฝึกทักษะด้านดนตรี คอมพิวเตอร์ หรืองานฝีมือ
4. การสนับสนุนจากครูและบุคลากรทางการศึกษา
- ครูควรได้รับ การอบรมเรื่องการสอนนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็น
- มี ครูการศึกษาพิเศษ (Special Education Teachers) หรือเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่สามารถช่วยเหลือนักเรียนได้
- มีระบบ ให้คำปรึกษา (Counseling) สำหรับช่วยด้านจิตใจและสังคม
5. การสนับสนุนจากครอบครัวและชุมชน
- ครอบครัวควรมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการเรียนรู้ของเด็ก
- ใช้เครือข่ายของชุมชนหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมคนตาบอด เพื่อเข้าถึงทรัพยากรและโอกาสที่เหมาะสม
6. การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ
- แอปพลิเคชันสำหรับช่วยอ่านหรือแปลงข้อความเป็นเสียง
- ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ช่วยจดจำและอธิบายวัตถุในสภาพแวดล้อม
- อุปกรณ์ VR/AR สำหรับช่วยสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่จับต้องได้
การจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่บกพร่องทางการเห็นจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายและใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อให้พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ
บทความวิจัย
01. A Pilot Study Examining a Computer-Based Intervention to Improve Recognition and Understanding of Emotions in Young Children with Communication and Social Deficits.
02. A randomized controlled trial of a telehealth parenting intervention: A mixed-disability trial.
03. Assessing the impact of a program for late surgical intervention in early-blind children.
04. Cataracts.
05. Circulating Inflammatory-Associated Proteins in the First Month of Life and Cognitive Impairment at Age 10 Years in Children Born Extremely Preterm.
06. Comparison of Visual Outcomes in Coats’ Disease.
07. Disentangling HowtheBrainis “Wired” in Cortical (Cerebral)VisualImpairment.
08. Dyssynchrony and perinatal psychopathology impact of child disease on parents-child interactions, the paradigm of Prader Willi syndrom.
09. Event-related potential response to auditory social stimuli, parent-reported social communicative deficits and autism risk in school-aged children with congenital visual impairment.
10. Feasibility trial of a psychoeducational intervention for parents with personality difficulties: The Helping Families Programme.
11. Food shopping, sensory determinants of food choice and meal preparation by visually impaired people. Obstacles and expectations in daily food experiences.
12. The prevalence of abdominal obesity among pupils with visual impairment in Poland.
13. Vision Assessments and Interventions for Infants 0-2 Years at High Risk for Cerebral Palsy: A Systematic Review.
14. Verbal working memory and reading abilities among students with visual impairment.
15. User-centred design with visually impaired pupils: A case study of a game editor for orientation and mobility training.
16. Parenting program versus telephone support for Mexican parents of children with acquired brain injury: A blind randomized controlled trial.
17. Psychometric properties of the Chinese version of the child and adolescent factors inventory (CAFI-C).
18. The Role of the Human Visual Cortex in Assessment of the Long-Term Durability of Retinal Gene Therapy in Follow-on RPE65 Clinical Trial Patients.
19. Towards a methodology for User Experience Assessment of Serious Games with children with Cochlear Implants.